Facebook Instagram Youtube Twitter

การวัดอุณหภูมิสูงด้วยไพโรมิเตอร์

การวัดอุณหภูมิสูงด้วยไพโรมิเตอร์: วิธีการทำงาน ประเภทของไพโรมิเตอร์ และการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อการวัดอุณหภูมิที่แม่นยำ

การวัดอุณหภูมิสูงด้วยไพโรมิเตอร์

การวัดอุณหภูมิสูงด้วยไพโรมิเตอร์

ในสาขาวิศวกรรมความร้อน (Thermal Engineering) การวัดอุณหภูมิสูงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเราจำเป็นต้องทราบอุณหภูมิของวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในกระบวนการทางอุตสาหกรรม เช่น การหลอมโลหะ การผลิตแก้ว และการผลิตเซรามิก

ไพโรมิเตอร์คืออะไร?

ไพโรมิเตอร์ (Pyrometer) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการวัดอุณหภูมิสูงโดยไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุ ไพโรมิเตอร์ทำงานโดยการตรวจสอบการแผ่รังสีของวัตถุ แนวคิดพื้นฐานคือ วัตถุที่มีอุณหภูมิสูงจะปล่อยพลังงานในรูปของรังสีและแสง ซึ่งสามารถตรวจสอบและแปลงค่าเป็นอุณหภูมิได้

ประเภทของไพโรมิเตอร์

  • ไพโรมิเตอร์แบบการเปลี่ยนแปลงสี (Optical Pyrometer): ใช้หลักการเปรียบเทียบสีที่แผ่ออกมาจากวัตถุกับสีมาตรฐาน
  • ไพโรมิเตอร์แบบรังสีรวม (Total Radiation Pyrometer): ตรวจสอบทุกความยาวคลื่นของรังสีที่แผ่ออกมาจากวัตถุ
  • ไพโรมิเตอร์แบบอินฟราเรด (Infrared Pyrometer): วัดอุณหภูมิจากรังสีอินฟราเรดที่แผ่ออกมาจากวัตถุ

การทำงานของไพโรมิเตอร์

ไพโรมิเตอร์ทำงานตามกฎของสเตฟาน-โบลต์ซมาน (Stefan-Boltzmann Law) ซึ่งรายงานว่า

พลังงานที่แผ่รังสี (E) โดยวัตถุสีดำสัมพันธ์ตามสมการ:

E = σ T4

  • σ คือ ค่าคงที่ของสเตฟาน-โบลต์ซมาน (~5.67 x 10-8 W/m2K4)
  • T คือ อุณหภูมิของวัตถุในหน่วยเคลวิน (K)

ข้อดีของการใช้ไพโรมิเตอร์

  • สามารถวัดอุณหภูมิได้ในช่วงที่สูงมาก
  • ไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับวัตถุ
  • มีความรวดเร็วในการวัดผล

ข้อจำกัดของการใช้ไพโรมิเตอร์

  1. ความแม่นยำอาจต่ำลงถ้าวัตถุมีการสะท้อนรังสี
  2. ราคาของไพโรมิเตอร์อาจสูงกว่าการวัดแบบสัมผัส
  3. ต้องมีการตั้งค่าและสอบเทียบอย่างถูกต้อง

ในการใช้งานจริง ไพโรมิเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการควบคุมกระบวนการทางอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลอุณหภูมิที่แม่นยำและรวดเร็ว ทำให้สามารถตัดสินใจในกระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที